bs5121237006

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สมุทรปราการ

จังหวัดสมุทรปราการ หรือที่เรียกกันว่าเมืองปากน้ำ ซึ่งเคยเป็นเมืองหน้าด่านทางที่ทะเลที่สำคัญในอดีต จังหวัดสมุทรปราการตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทยสองฟากฝั่งตอนปลายสุดของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากอ่าวไทย ระหวางเส้นละติจูดที่ 13-14 องศาเหนือ และเส้นลองจิจูดที่ 100-101 องศาตะวันออก ห่างจากใจกลางกรุงเทพมหานครไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 29 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 1,004.092 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 627,557 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้ ทิศเหนือและทิศตะวันตกติดต่อกับกรุงเทพมหานคร ทิศใต้ติดต่อกับอ่าวไทย ทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดฉะเชิงเทรา

จังหวัดสมุทรปราการแบ่งการปกครองออกเป็น 6 อำเภอ ประกอบไปด้วย
1.
อำเภอเมืองสมุทรปราการ
2.
อำเภอบางบ่อ
3.
อำเภอบางพลี
โดยแบ่งการปกครองแบ่งออกเป็น 6 อำเภอ 50 ตำบล 405 หมู่บ้าน 17 เทศบาล และ 31 องค์การบริหารส่วนตำบล ดังนี้:
อำเภอเมืองสมุทรปราการ
อบต. 4 แห่ง -
แพรกษา - บางด้วน - บางโปรง - เทพารักษ์
สภาตำบล 1 แห่ง -
แพรกษาใหม่
เทศบาล 7 แห่ง -
เทศบาลนครสมุทรปราการ - เทศบาลเมืองปากน้ำสมุทรปราการ - เทศบาลตำบลสำโรงเหนือ - เทศบาลตำบลบางปู - เทศบาลตำบลแพรกษา - เทศบาลตำบลด่านสำโรง - เทศบาลตำบลบางเมือง
อำเภอบางบ่อ
อบต. 8 แห่ง - บางเพรียง - บ้านระกาศ - คลองด่าน - บางบ่อ - บางพลีน้อย - คลองนิยมยาตรา - คลองสวน - เปร็ง
สภาตำบลไม่มี
เทศบาล 3 แห่ง - เทศบาลตำบลบางบ่อ - เทศบาลตำบลคลองสวน - เทศบาลตำบลคลองด่าน
อำเภอบางพลี
อบต. 6 แห่ง - บางพลีใหญ่ - บางแก้ว - บางโฉลง - บางปลา - ราชาเทวะ - หนองปรือ
สภาตำบลไม่มี
เทศบาล 1 แห่ง - เทศบาลตำบลบางพลี
อำเภอพระประแดง
อบต. 6 แห่ง - ทรงคนอง - บางกระสอบ - บางยอ - บางน้ำผึ้ง - บางกะเจ้า - บางกอบัว
สภาตำบลไม่มี
เทศบาล 3 แห่ง - เทศบาลเมืองพระประแดง - เทศบาลเมืองลัดหลวง - เทศบาลตำบลสำโรงใต้
อำเภอพระสมุทรเจดีย์
อบต. 4 แห่ง - บ้านคลองสวน - ในคลองบางปลากด - แหลมฟ้าผ่า - นาเกลือ
สภาตำบลไม่มี
เทศบาล 2 แห่ง - เทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ - เทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่า
อำเภอบางเสาธง
อบต. 3 แห่ง - บางเสาธง - ศีรษะจรเข้น้อย - ศีรษะจรเข้ใหญ่
สภาตำบลไม่มี
เทศบาล 1 แห่ง - เทศบาลตำบลบางเสาธง
* บางเสาธงเป็นอำเภอใหม่ที่ได้ยกฐานะจากกิ่งอำเภอบางเสาธงด้วย
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
ตราพระสมุทรเจดีย์ : ตราประจำจังหวัด
ต้น
โพทะเล (Thespesia populnea) ต้นไม้ประจำจังหวัด
คำขวัญประจำจังหวัด: ป้อมยุทธนาวี พระเจดีย์กลางน้ำ ฟาร์มจระเข้ใหญ่ งามวิไลเมืองโบราณ สงกรานต์พระประแดง ปลาสลิดแห้งรสดี ประเพณีรับบัว ครบถ้วนทั่วอุตสาหกรรม งามล้ำโพทะเล

สถานที่ท่องเที่ยว
อำเภอเมืองสมุทรปราการ
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
อยู่ที่ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2356 เป็นหลักเมืองเก่าของอำเภอพระประแดง ในสมัยเมื่ออำเภอนี้มีฐานะเป็นเมือง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งซึ่งชาวเมืองเคารพนับถือมาก
-----------------------------------------------------------------
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
อาคารนี้ มีความสูงเท่ากับตึกสูงประมาณ 17 ชั้น ความสูงจากพื้นดินถึงยอด 50 เมตร ตัวอาคารด้านล่าง มีระเบียงรอบเป็นวงกลม มีทางเข้าภายในอาคารได้หลายทาง การออกแบบก่อสร้างได้คำนึงถึงประโยชน์ ใช้สอยควบคู่กันไปกับความสวยงามทางศิลปะ ทุกขั้นตอนการทำงานได้มีการศึกษาทั้งในเรื่องโครงสร้าง วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอย่างอะเอียดถี่ถ้วน การทำงานจึงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ลัษณะอาคารมี 5 ชั้น
1.ห้องนิทรรศการ
2.ห้องโถง มีประตูซุ้มใหญ่ 8 ซุ้ม
3.ชั้นพักบันได และเข้าลิฟท์
4.ชั้นลอย มีห้องพักรอก่อนขึ้นชั้นบน
5.ห้องท้องช้าง เป็นที่จัดแสดงโบราณวัตถุ
เมื่อเดินเข้ามาภายในอาคาร จะเป็นเหมือนห้องโถง ตรงกลางโถงเป็นซุ้มโอบรอบด้วยบันไดวน 2 ข้าง ที่ขึ้นมาบรรจบกัน ในส่วนนี้ช่างปูนปั้นฝีมือดีจากเพชรบุรีเป็นผู้ออกแบบและดูแลการทำงาน ซึ่งต้องใช้คน ไม่น้อยกว่า 30 คน ปูนปั้นที่ใช้ในงานนี้เป็นปูนปั้นที่ทำมาจากหินฟูลออลไรท์ จึงมีสีขาวต่างจากปูนซีเมนต์ ช่างจะปั้นเป็นดอกเป็นลายที่ละดอก ไม่ได้ทำเป็นแบบหล่อขึ้นมา แต่ละส่วนจึงมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน
จากชั้นหนึ่งขึ้นบันไดเวียนไปถึงบริเวณห้องท้องช้าง ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของอาคารเป็นห้องแสดงศิลปวัตถุใน ส่วนนี้จะมีเหล็กที่ก่อสร้างขึ้นมาเป็นคาน เพื่อแบกรับน้ำหนักของโครงสร้างส่วนบนทั้งหมดพาดไปมา คานส่วนนี้ทำขึ้นเพื่อรับน้ำหนักส่วนที่เป็นหัวช้างทั้ง 3 หัว ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 100 ตัน
ส่วนของเพดานนั้นใช้กระจกสีออกแบบเป็นรูปแผนที่โลก ช่างชาวเยอรมันกำลังทำงานส่วนนี้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยจะเหมือนหลังคาโลก ส่วนวัสดุที่นำมาทำผิวช้าง ผู้รับผิดชอบโครงการเลือกใช้ทองแดงบริสุทธิ์ เมื่อเวลาผ่านไปจะมีสนิมสีเขียวจับ ทำให้ผิวช้างมีลวดลายและเป็นว้สดุที่คงทนอยู่ได้นาน



-----------------------------------------------------------------
เมืองโบราณ
เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี 2506 ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง บริเวณหลักกม.ที่ 33.5 ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ห่างจากตัวจังหวัด 8 กม. เป็นศูนย์รวมปูชนียสถานที่สำคัญๆ ของแต่ละจังหวัด เช่น เขาพระวิหาร ปราสาทหินพนมรุ้ง วัดมหาธาตุสุโขทัย พระพุทธบาทสระบุรี พระธาตุเมืองนคร พระธาตุไชยา ฯลฯ โดยสร้างให้มีขนาดเล็กลง บางแห่งเท่าแบบจริงการสร้างฝีมือประณีต นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่นับวันจะสูญหายไปจากสังคมยุคใหม่ ผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของประเทศไทยจะศึกษาได้จากเมืองโบราณแห่งนี้



-----------------------------------------------------------------
การเดินทาง
หากไปโดยรถส่วนตัว ใช้ถนนสายบางนา-สมุทรปราการ เมื่อถึงหอนาฬิกาให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 8 กม. หากไปโดยรถประจำทาง ขึ้นรถ บขส. ชลบุรี (สายเก่า) ที่สถานีขนส่งเอกมัยหรือขึ้นรถเมล์ ขสมก. สาย ปอ.8, ปอ.11, สาย 25, 102 ลงที่ปากน้ำ แล้วต่อรถเมล์เล็กท้องถิ่นสาย 36 อย่างไรก็ตาม พื้นที่เมืองโบราณมีอาณาเขตกว้างขวางมาก หากนำรถส่วนตัวไปเที่ยวชมจะได้รับความสะดวกสบายมากกว่า
เมืองโบราณเปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยเสียค่าบัตรผ่านประตูคนละ 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี คนละ 25 บาท อายุต่ำกว่า 5 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม ค่านำรถผ่านเข้าชมคันละ 50 บาท รถตู้ 100 บาท รถบัส 200 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัทเมืองโบราณ จำกัด มุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง โทร. 2241057, 2261936-7
-----------------------------------------------------------------
พระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ

อยู่ที่ตำบลปากคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงกันข้ามกับศาลากลางจังหวัด แต่เดิมพระเจดีย์นี้ตั้งอยู่บนเกาะกลางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ท้ายป้อมผีเสื้อสมุทร ต่อมาชายตลิ่งฝั่งขวาของแม่น้ำตื้นเขินงอกออกมาเชื่อมติดกับเกาะอันเป็นที่ตั้งพระเจดีย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างแต่ยังไม่ทันเสร็จก็สิ้นรัชกาล พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อเป็นพระเจดีย์สูง 20 เมตร ต่อมาในรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนรูปทรงพระเจดีย์แล้วก่อให้สูงขึ้นอีกเป็น 38 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระชัยวัฒน์และพระห้ามสมุทรไว้



-----------------------------------------------------------------
พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ
อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนนายเรือ บนถนนสุขุมวิท จากแยกบางนาไปสำโรงประมาณ 10 กม. ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่รวมของข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกองทัพเรือไทยและยุทธนาวีครั้งสำคัญๆ นอกจากนั้น ยังมีเรือจำลองสมัยต่างๆ เช่น เรือที่ใช้ในพระราชพิธีกระบวนเรือพยุหยาตราชลมารค เรือรบหลวงพระร่วง เรือหลวงมัจฉานุซึ่งเป็นเรือดำน้ำลำแรกของกองทัพเรือไทย เปิดให้เข้าชมในวันราชการตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยไม่เสียค่าผ่านประตู รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. 394-1997



-----------------------------------------------------------------
ป้อมพระจุลจอมเกล้า

ตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำเจ้าพระยาในตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ห่างจากพระสมุทรเจดีย์ตามถนนสุขสวัสดิ์เป็นระยะทางประมาณ 7 กม. เป็นป้อมที่ทันสมัย และมีบทบาทสำคัญยิ่งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งได้ทำการยิงต่อสู้กับอริราชศัตรูมาแล้วเมื่อครั้งหนึ่ง เมื่อ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) เป็นป้อมที่จารึกอยู่ในความทรงจำของคนไทยและประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกยาวนาน เพราะในสมัยนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเห็นว่า ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสกำลังแสวงหาเมืองขึ้น บรรดาประเทศต่างๆ ที่อยู่ติดเขตแดนไทย ก็ถูกประเทศทั้งสองเข้าครอบครองไปหมดแล้ว นับเป็นภัยใหญ่หลวงสำหรับประเทศเล็กๆ อย่างประเทศไทยเรา พระองค์จึงทรงหาวิธีป้องกันต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันทางน้ำ ทรงดำริให้ปรับปรุงป้อมต่างๆ ทางปากน้ำ โดยจ้างชาวต่างประเทศที่ชำนาญการทหารเรือเป็นที่ปรึกษาวางแผนในการปรับปรุงกิจการทหารเรือในครั้งนั้นด้วย
ผู้เข้าชมต้องขออนุญาตจากกองรักษาการณ์ในบริเวณป้อมฯ หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะและต้องการวิทยากรนำชมสถานที่ ต้องทำหนังสือถึงสถานีทหารเรือกรุงเทพ โทร. 411-2147
อ่านประวัติ ป้อมพระจุลฯ >>>




-----------------------------------------------------------------
ป้อมแผลงไฟฟ้า
ตั้งอยู่ที่ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง ยังมีสภาพสมบูรณ์อยู่บางส่วน เป็นป้อมปราการแห่งหนึ่งของฐานทัพ เมืองนครเขื่อนขันธ์ สร้างในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองนครเขื่อนขันธ์เป็นเสมือนหนึ่งฐานทัพด้านปากแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเมืองที่มีป้อมปราการหลายแแห่ง โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) มีพระราชดำริที่จะป้องกันพระราชอาณาจักร ปัจจุบันเทศบาลเมืองพระประแดงได้ทำการบูรณะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน โดยบริเวณข้างบนของป้อมได้จัดปืนใหญ่โบราณหลายกระบอกตั้งไว้ให้ชม รอบๆ บริเวณจัดปลูกต้นไม้ร่มรื่นอ่านประวัติ ป้อมแผลงไฟฟ้า >>>



-----------------------------------------------------------------
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
เป็นตลาดน้ำที่ใกล้กรุงเทพ ซึ่งตลาดแห่งนี้ยังคงอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ท่านจะเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลอง พ่อค้าแม่ค้าหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ที่สำคัญก่อนมาที่ตลาดน้ำแห่งนี้ทำท้องให้ว่างไว้ดีที่สุด เพราะว่าอาหารการกินที่นี่หลากหลายมาก เช่น ก๋วยจั๊บ กระเพาะปลา รังนก ก๋วยเตี๋ยว และยังมีอาหารที่เราไม่ค่อยจะพบกันบ่อยนักแต่ว่าอย่าพึ่งทานให้อิ่มทีเดียว เพราะว่ายังมีอาหารที่ไม่ได้ขายในท้องตลาดทั่วไปอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น ขนมครกหอยทอด ทอดมันปลา หมึกไข่เสียบไม้ห่อด้วยใบตอง แจงรอน ลูกชิ้นโบราณมีทั้งไส้กุ้ง หมู เผือก แครอท หน้าตาไม่ค่อยคุ้นเท่าซักเท่าไหร่นัก



สำหรับของหวานก็เช่น สลิ่ม ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง วุ้นหลากสี ข้าวเหนียวทรงเครื่อง และอีกมากมาย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ทานกันอิ่มแล้วออกแรงกันหน่อยดีกว่าเพราะว่าที่นี่มีบริการเรือให้เช่าอัตราค่าบริการคนละ 20 บาทต่อชั่วโมง หนึ่งลำนั่งได้ 4 คน หลังจากสนุกกับการพายเรือแล้วที่นี่เค้าก็มีบริการนวดให้ท่านผ่อนคลายอีกด้วย
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งจะมีเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 14.00 น. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายก อบต. บางน้ำผึ้ง โทร. 01 171 4930 และสำนักงาน อบต. บางน้ำผึ้ง โทร. 02 819 6762การเดินทาง ทางรถยนต์ จากกรุงเทพให้ขึ้นทางด่วนไปลงสุขสวัสดิ์ จะเห็นสามแยกพระประแดง – สุขสวัสดิ์ เลี้ยวบริเวณปั๊มน้ำมัน MP พอถึงตลาดพระประแดงให้เลี้ยวซ้ายผ่านวัดทรงธรรมวรวิหารจะพบป้ายบอกทางไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ให้ขับตรงไปเรื่อยๆระหว่างทางจะต้องผ่านบริเวณก่อสร้างถนนวงแหวนขับตรงไปเรื่อยๆ จะพบสะพานข้ามคลองให้ขับข้ามสะพานจะเป็นถนนเพชรหึงส์ ขับตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางขวามือ จะเห็นป้ายซอยเพชรหึงส์ 26 ให้เลี้ยวขวาเข้ามาที่ลานจอดรถใกล้ๆ สถานีอนามัย จอดรถที่นี่แล้วเดินไปตลาดน้ำได้เลยค่ะ รถโดยสารประจำทาง ให้นั่งรถมาลงที่พระประแดง นั่งมาจนสุดสายที่ท่าน้ำพระประแดง ส่วนรถเมล์ที่มาถึงพระประแดงก็จะมี สาย 6 พระประแดง – บางลำพู, สาย 82 พระประแดง – บางลำพู, สาย 506 ปากเกร็ด – พระประแดง และสาย 138 หมอชิตใหม่ – พระประแดง จากพระประแดงจะมีรถสองแถวเล็กหรือที่เรียกว่ารถกะป๊อ มาลงตลาดบางน้ำผึ้งได้เลย
ข้อมุลและรูปภาพเพิ่มเติม
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
------------------------------------------------------------------
ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ
ตั้งขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2493 ปัจจุบันเป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ในเขตตำบลท้ายบ้าน ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กม. ภายในเป็นสถานเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดต่างๆ กว่า 40,000 ตัว มีการแสดงวิธีจับจระเข้ด้วยมือเปล่า ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ทุกๆ 1 ชั่วโมง พักเที่ยง วันหยุดเพิ่มรอบ 12.00 น. และ 17.00 น. เวลาการให้อาหารจระเข้ 16.30-17.30 น. ;
การแสดงของช้างแสนรู้เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอันมาก มีการแสดงทุก 1 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น. ทุกวัน นอกจากการเลี้ยงจระเข้แล้ว ภายในฟาร์มยังมีสัตว์แสนรู้อื่นๆ อีก เช่น เสือ และลิงชิมแปนซี สัตว์ประเภทอื่นๆ เช่น ชะนี เต่า งูเหลือม งูหลาม นก อูฐ ฮิปโป และปลาจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ซึ่งจัดแสดงกระดูกและหุ่นจำลองไดโนเสาร์ขนาดเท่าตัวจริงกว่า 13 ชนิด พร้อมการฉายสไลด์มัลติวิชั่น เรื่องของมนุษย์และสัตว์ดึกดำบรรพ์ด้วย
ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ค่าบัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่คนละ 50 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างประเทศคนละ 300 บาท
การเดินทางไปยังฟาร์มฯ นอกจากรถส่วนตัวแล้ว สามารถใช้บริการรถเมล์ ขสมก. สาย ปอ.8 และ ปอ.11 ซึ่งจะสุดสายที่นั้นพอดี หรือรถเมล์ธรรมดาสาย 25, 45, 102 และ 145 ไปยังสมุทรปราการแล้วต่อรถสองแถวสาย S.1 และ S.55
การเข้าชมเป็นหมู่คณะหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการวิทยากร ควรมีหนังสือติดต่อล่วงหน้าไปที่ ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ 555 ถนนท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10280 หรือ โทร. 387-0020, 387-1166 และ 387-2375
-----------------------------------------------------------------
หนองงูเห่าฟาร์ม
อยู่ที่ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี ถนนบางนา-ตราด ประมาณกม.ที่ 14-15 แยกเข้าทางซ้ายไปอีก 1.5 กม. ทางเข้าซอยวิทยาลัยเกริก เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2529 มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นสถานที่เพาะเลี้ยงงูเห่าชนิดต่างๆ และมีการแสดงวิธีรีดพิษงู การจับงู พร้อมทั้งมีผลิตภัณฑ์ทำด้วยหนังงูจำหน่ายในราคาย่อมเยา เช่น รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด ฯลฯ เปิดให้เข้าชม 09.00-17.30 น. ปกติจะอนุญาตให้เข้าชมเฉพาะบริษัทนำเที่ยวที่มีการติดต่อกันไว้แล้วเท่านั้น หากบุคคลทั่วไปสนใจจะเข้าชมต้องทำหนังสือติดต่อขออนุญาตล่วงหน้าไปที่ หนองงูเห่าฟาร์ม 23/2 หมู่ 6 กม.ที่ 15 บางนา-ตราด ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 โทร. 3125990 โดยไม่เก็บค่าเข้าชมแต่อย่างใด
-----------------------------------------------------------------
วัดกลางวรวิหาร
ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวงชั้นโท เป็นวัดสมัยอยุธยาตอนปลาย เดิมชื่อ วัดตะโกทอง มีพระอุโบสถได้รับการปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 หน้าบันมีลายปูนปั้นประดับเครื่องลายคราม ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังปฐมสมโพธิกถา ต่อมามีการสร้างพระมณฑปประดิษฐานพระพุทธบาท 4 รอย นอกจากนี้ยังมีศาลาการเปรียญเป็นเรือนไทยหมู่ไม้สักทั้งหลัง หน้าบันมีลวดลายไม้สลักละเอียดอ่อนสวยงามควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างยิ่ง
ข้อมูลประวัติและรูปภาพ
วัดกลางวรวิหาร



------------------------------------------------------------------
วัดอโศการาม
อยู่ริมถนนสุขุมวิท ห่างจากตัวเมือง 6 กม. มีทางแยกขวามือเข้าสู่วัดตรงสถานพักฟื้นสวางคนิวาส วัดนี้เป็นวัดใหม่ สร้างเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2505 ฝ่ายธรรมยุตินิกาย สร้างขึ้นโดยพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร) เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งและเป็นสถานที่สำหรับวิปัสสนากรรมฐาน มีสิ่งที่น่าชม เช่น พระธุตังคเจดีย์ เป็นพระเจดีย์หมู่รวม 13 องค์ เป็นที่ระลึกถึงธุดงควัตร 13 ประการ และวิหารวิสุทธิธรรมรังสีเป็นที่ประดิษฐานสรีระท่านอาจารย์ลี



-----------------------------------------------------------------
วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร
ตั้งอยู่ที่ตำบลบางผึ้ง อำเภอพระประแดง เป็นพระอารามหลวงชั้นโท กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ ทรงสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 มีพระอุโบสถและพระวิหารที่งดงาม ในพระอุโบสถมีพระประธานปูนปั้นปิดทองปางมารวิชัย อยู่บนบุษบกยอดปรางค์จตุรมุข
-----------------------------------------------------------------
วัดทรงธรรมวรวิหาร
ตั้งอยู่ที่อำเภอพระประแดง เป็นวัดเก่าแก่ในพุทธศาสนารามัญนิกาย สร้างขึ้นพร้อมกับเมืองนครเขื่อนขันธ์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันเป็นอ่านประวัติ วัดทรงธรรมวรวิหาร >>>
-----------------------------------------------------------------
วัดบางพลีใหญ่
ตั้งอยู่ริมคลองสำโรง ที่ตำบลบางพลีใหญ่ ห่างจากประตูน้ำสำโรงประมาณ 13 กม. เดิมชื่อวัดพลับพลาไชยชนะสงคราม สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชัยชนะของพระองค์ ต่อมาได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่สมัยสุโขทัยปางมารวิชัยลืมเนตร หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ เนื้อเป็นทองสัมฤทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนโดยทั่วไปนาม หลวงพ่อโต วัดนี้จึงมีชื่อว่า วัดหลวงพ่อโต อีกชื่อหนึ่ง ชาวบางพลีได้อัญเชิญหลวงพ่อโตจำลองลงเรือในพิธีโยนบัวหรือรับบัวทุกปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11
-----------------------------------------------------------------
วัดโปรดเกศเชษฐาราม
อยู่ที่ตำบลทรงคะนอง อำเภอพระประแดง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี เป็นวัดพุทธไทยเพียงวัดเดียวในย่านพระประแดง ส่วนวัดอื่นๆ มักเป็นพุทธรามัญ พระยาเพชรพิชัย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 มีลักษณะสถาปัตยกรรมดีเด่นคือ พระอุโบสถมุงหลังคาด้วยกระเบื้องมอญเก่า ไม่มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันมีศิลปะปูนปั้นลายเครือเถาประดับเครื่องลายคราม ภายในมีพระประธานหล่อด้วยโลหะ เป็นพระพุทธปางมารวิชัย พระวิหารมีลักษณะสถาปัตยกรรมเช่นเดียวกับพระอุโบสถ ภายในมีพระพุทธไสยาสน์พระพักตร์งามมาก เหนือหน้าต่างมีภาพปริศนาธรรม เป็นศิลปะตะวันตกซึ่งหาดูได้ยาก นอกจากนี้ยังมีพระมณฑปหลังคามุงด้วยกระเบื้องรางรายรอบด้วยเก๋งจีน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ มีพระปรางค์ที่มุมทั้ง 4 ด้าน ภายในพระมณฑปมีพระพุทธรูปและรอยพระพุทธบาทจำลองประดับมุข
-----------------------------------------------------------------
ศาลพระเสื้อเมือง
อยู่ที่ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง สร้างขึ้นพร้อมกับเมืองพระประแดง ชาวบ้านนับถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เคารพบูชากันมาก
-----------------------------------------------------------------
สถานตากอากาศบางปู

เป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมาเป็นเวลานาน และเป็นสถานพักฟื้นและพักผ่อนของกรมพลาธิการทหารบก อยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ริมถนนสุขุมวิท ห่างจากตัวเมือง 10 กม. ภายในมีสวนไม้ดอกไม้ประดับ มีร้านอาหาร ในระยะเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ จะมีนกนางนวลอพยพมาหากินอยู่ตามชายทะเลซึ่งเป็นธรรมชาติที่น่าชมมาก รายละเอียดต่อ โทร. 323-9138, 323-9983

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก